(https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa5nacSvzPKRSBlYOBwbUBoNgHdxbVzbDL6FwEu9oyS9RVioQj38t.jpg)
ชัคห์ตาร์ โดเนตสค์ ฟ้องศาลกีฬาโลก เรียกค่าเสียหายก้อนโตจาก ฟีฟ่า หลังสูญเสียรายได้มหาศาลจากคำสั่งหลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน
วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ชัคห์ตาร์ โดเนตสค์ สโมสรชั้นนำในลีกสูงสุดยูเครน ยื่นจดหมายถึงศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (ซีเอเอส) เพื่อฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านยูโร (1,850 ล้านบาท) จาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียรายได้จากการย้ายทีมของผู้เล่นต่างชาติในสังกัด
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ฟีฟ่า มีคำสั่งให้นักเตะและโค้ชต่างชาติที่อยู่กับสโมสรในยูเครน สามารถระงับสัญญาของตัวเองได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2023 เว้นแต่ว่าบรรลุข้อตกลงกับสโมสรได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเกิดสงครามกับรัสเซียมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
แต่คำสั่งดังกล่าวส่งผลกระทบให้ ชัคห์ตาร์ โดเนตสค์ ต้องสูญเสียรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 50 ล้านยูโร จากการที่สัญญาของผู้เล่นถูกระงับ จนนักเตะต่างชาติ 4 รายของสโมสรต้องอดย้ายทีม จึงเป็นที่มาของการยื่นเรื่องฟ้องศาลกีฬาโลก เพื่อเรียกค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวจาก ฟีฟ่า
ด้าน เซอร์เก พัลคิน ประธานบริหารของ ชัคห์ตาร์ โดเนตสค์ เปิดเผยเนื้อหาในจดหมายที่ยื่นถึงศาลกีฬาโลก เพื่อฟ้องร้อง ฟีฟ่า ว่า "เนื่องจากการตัดสินใจของ ฟีฟ่า เราจึงเสียโอกาสในการโอนนักเตะต่างชาติ 4 ราย คิดเป็นเงินประมาณ 50 ล้านยูโร ซึ่งผู้เล่นต่างชาติทั้ง 4 คนต้องถอนตัวจากการเจรจาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสที่จะย้ายทีมของพวกเขาทันที โดยไม่มีค่าชดเชยใดๆ ทั้งที่พวกเขากำลังจะมีรายได้มากขึ้นกับผู้ว่าจ้างใหม่"
เซอร์เก พัลคิน ยังถามหาความรับผิดชอบจาก ฟีฟ่า อีกว่า "เราทำเช่นนี้ เพราะการตัดสินใจของ ฟีฟ่า ไม่ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง เราต้องสูญเสียรายได้มหาศาลจากข้อตกลงที่เรากำลังจะปิดดีลได้แล้ว และเราต้องการเน้นย้ำด้วยว่าในสถานการณ์ที่สโมสรในยูเครนกำลังเผชิญกับสงคราม ฟีฟ่า ไม่ได้คำนึงถึงการปกป้องผลประโยชน์ของสโมสรต่างๆ และไม่เคยปรึกษาเราเพื่อหาทางแก้ไข ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเพิกเฉยต่อสถานะอันตรายที่สโมสรฟุตบอลยูเครนต้องเผชิญตั้งแต่เริ่มสงคราม"