[ข่าวกีฬา SA GAMING]

ตอนนี้มีความเป็นไปได้ 99.99 เปอร์เซนต์ที่ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าชาวอุรุกวัย จะย้ายมาเป็นสมาชิใหม่ลิเวอร์พูล หลังจากมีรายงานว่านักเตะจะเดินทางมาตรวจร่างกาย และเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนนี้

     หัวหอกวัย 22 ปี ตะบันไป 34 ประตูในทุกรายการให้กับ เบนฟิก้า ตกเป็นเป้าหมายของหลายทีมในยุโรป โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีข่าวกับเจ้าตัวมานานแล้ว แต่สุดท้าย "หงส์แดง" ปาดหน้าคว้าตัวไปร่วมทัพด้วยเม็ดเงิน 85.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,676.5 ล้านบาท) พร้อมเซ็นสัญญา 6 ปี

     เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการผู้เล่นอย่าง นูนเญซ มาร่วมทัพ เพื่อหวังที่จะมาทดแทน ซาดิโอ มาเน่ ที่กำลังจะย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ โดยคาดว่าจุดหมายปลายทางคงอยู่ที่ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค

     สำหรับ นูนเญซ ไม่ใช่กองหน้าที่เน้นรอจังหวะเข้าทำในกรอบเขตโทษเท่านั้น แต่เป็นผู้เล่นที่สามารถขยับออกไปเล่นทางกราบได้ด้วย ซึ่งนี่คือสิ่งที่ คล็อปป์ ต้องการอย่างมาก



     แน่นอนว่า นายใหญ่ชาวเยอรมัน อยากได้ นูนเญซ เพื่อมาเติมเต็มการเล่นในระบบที่เจ้าตัวชื่นชอบนั่นก็คือ 4-3-3 โดยหน้าที่หลักของเขาก็คงหนีไม่พ้นการเป็นหน้าเป้าที่จะคอยเผด็จศึกคู่แข่งในกรอบเขตโทษ ส่วน ดีโอโก้ โชต้า จะเป็นยางอะไหล่ในยามฉุกเฉิน

     ขณะที่แนวรุกทางกราบซ้ายคงไม่ใช่ใคร หลุยส์ ดิอาซ ซึ่งทำผลงานได้เด็ดสะระตี่เหลือเกินหลังย้ายมาเล่นกับสโมสรเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนทางขวายังคงเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต่อไป แต่ก็อาจจะมีการสอดแทรก เจ้าหนูฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ในบางเกมก็ได้

     สำหรับแดนกลางในฤดูกาลหน้า สาวก "เดอะ ค็อป" อาจจะได้เห็นบทบาทของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น้อยลง เพราะ คล็อปป์ น่าจะใช้งาน ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ เจ้าหนูมหัศจรรย์ที่คว้าตัวมาจาก ฟูแล่ม ในช่วงซัมเมอร์นี้

     ส่วนสองประสานที่จะคอยทำหน้าที่สนับสนุนการเล่นของ คาร์วัลโญ่ ก็คือ ติอาโก้ อัลกันทาร่า และ ฟาบินโญ่ โดยที่ นาบี เกอิต้า กับ เคอร์ติส โจนส์ จะเป็นกำลังเสริมที่สามารถเข้ามาทดแทนเมื่อทีมต้องการสร้างความแตกต่าง

     ด้านแผงแบ็กโฟร์ แฟนบอล "หงส์แดง" คงเห็นการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่ตำแหน่งเดียวนั่นก็คือ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่คงจะได้โอกาสลงเล่นเคียงข้างกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ มากขึ้น เพราะ คล็อปป์ ต้องการปั่นนักเตะให้ก้าวขึ้นมาเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวหลักในอนาคต ส่วน โฌแอล มาติป ก็จะคอยสอดแทรกในยามจำเป็น



 ระบบ 4-3-3 ที่คาดว่ายังเป็นแผนการเล่นหลักของทีมในฤดูกาล 2022/2023

ผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์

กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

กองกลาง : ติอาโก้ อัลกันทาร่า, ฟาบินโญ่, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่

กองหน้า :  หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

 

     อย่างไรก็ตามด้วยแผนการเล่น 4-3-3 เราๆ ท่านๆ คงเห็นกันแล้วโดยเฉพาะเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มักจะโดนคู่แข่งดักทางได้ด้วยการเล่นตั้งเกมรับลึก และเหนียวแน่น พร้อมรอจังหวะสวนกลับ เนื่องจากกองหลังของ "หงส์แดง" มักจะขึ้นสูงทำให้โดนย้อนศร จนพลาดท่าหลายครั้งหลายหน

     ด้วยเหตุนี้ กุนซือเลือดด๊อยท์ช จึงเตรียมวางหมากแก้เกมบรรดาทีมที่ชอบเล่นตั้งรับลึก ด้วยระบบ 4-2-3-1 โดยแท็กติกนี้ คล็อปป์ หวังที่จะใช้ผู้เล่นแนวเพลย์เมกเกอร์ในการวางบอลที่แม่นยำจัดการพวกทีมที่ตั้งใจมาอุดเต็มที่

     แน่นอนว่า คล็อปป์ สามารถใช้งาน คาร์วัลโญ่ ในตำแหน่งจอมทัพได้เลย เพราะเจ้าหนูวัย 19 ปี ถนัดการเล่นในตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 10 อยู่แล้วซึ่งเขาแสดงให้เห็นมาตลอดตอนที่อยู่กับทัพ "เจ้าสัวน้อย"



     อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล สามารถใช้งาน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในฐานะเพลย์เมกเกอร์ได้เช่นกัน เพราะ "บ็อบบี้" มักจะเล่นแบบนี้บ่อยๆ แม้เขาจะยืนเป็นหน้าเป้าให้กับ "หงส์แดง" ก็ตาม โดยประสบการณ์และทักษะของเจ้าตัวเหมาะอย่างยิ่งในการรับบทบาทจอมทัพเช่นกัน

     ฉะนั้นหากทีมเลือกปรับระบบเป็น 4-2-3-1 ในช่วงแรกๆ กุนซือจอมยิ้ม คงจะให้ ฟีร์มีโน่ ลงทำหน้าที่เป็นตัวหลักไปก่อน ส่วน คาร์วัลโญ่ คงต้องค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ และเมื่อชั่วโมงบินเขาคงได้เป็นตัวจริงในตำแหน่งนี้

     เชื่อว่าแท็กติกดังกล่าว จะสามารถแก้หมากทีมที่พยายามจะเน้นตังรับลึกได้เป็นอย่างดี เพราะ "หงส์แดง" จะสามารถสร้างโอกาสในการทำประตูได้จากทั้งทางกราบซ้าย-ขวา และตรงกลาง ซึ่งเป็นการเพิ่มความหลากหลายในการทำให้คู่แข่งเปิดตำรงมหาอุตม์ไม่ทันแน่นอน


แผนสำรองระบบ 4-2-3-1 แก้หมากคู่แข่งเน้นเกมรับ

ผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์

กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

กองกลาง : ติอาโก้ อัลกันทาร่า, ฟาบินโญ่

แนวรุก : หลุยส์ ดิอาซ, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่), โมฮาเหม็ด ซาลาห์

กองหน้า :   ดาร์วิน นูนเญซ