ควันหลงจากการแข่งขันไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2022 เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ส.ค.65 เกมที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทริปเบิ้ลแชมป์ซีซั่นที่ผ่านมา แพ้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2-3 ซึ่งในเกมดังกล่าวมีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน VAR อย่าง "เปาโค้ช"ศิวกร ภูอุดม ถึง 2 ช็อตที่เป็นที่พูดถึงกันเยอะมาก
(https://www.siamsport.co.th/wp-content/uploads/2022/08/webcover-%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A701-18.jpg)
โดยช็อตแรก น.40 แฟรงค์ คาสตาเญดา กองหน้าบุรีรัมย์ได้บอลทางกราบซ้ายกระชากเข้าไปยิง แต่ผู้ตัดสินเช็ค VAR จาก ศิวกร ภูอุดม ปรากฎว่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน บุรีรัมย์ ไม่ได้ประตูตีเสมอ 2-2
ช็อตสอง ต้นครึ่งหลัง น.48 โกรัน เคาซิช นักเตะตัวใหม่ บุรีรัมย์ ไปเสียบใส่ เจสซี่ เคอร์แรน แข้งหน้าใหม่บีจี ปทุม ชนิดที่ว่าเสียบอันตราย ผู้ตัดสินเป่า ต่อพงษ์ สมสิงห์ แจกใบเหลืองไปแล้ว แต่ "เปาโค้ช" ผู้ตัดสิน VAR แจ้งแบบตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใคร บอกว่า ช็อตนี้เข้าเคสใบแดง ทำให้ ต่อพงษ์ ต้องวิ่งมาดูจอ
น.48 "ปราสาทสายฟ้า" เหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ โกรัน เคาซิช ไปเสียบอันตรายใส่ เจสซี่ เคอร์แรน ผู้ตัดสินควักใบเหลืองให้ทันที แต่มีสัญญาณเช็คใบแดง ทำให้ตัองไปดูจอวีเออาร์ด้วยตัวเอง ก่อนมายกเลิกใบเหลืองและเปลี่ยนเป็นใบแดงไล่ โกรัน ออกจากสนามทันที
2 ช็อตดังกล่าว คนวงการต่างซูฮกการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน VAR อย่าง "เปาโค้ช"ศิวกร ภูอุดม อย่างมาก โดยพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ตัดสินคนอื่นคงไม่มีใครกล้าเป่า กล้าที่จะออนฟิลด์สัญญาณ จะมีก็แค่ "เปาโค้ช" ที่กล้าทำตามหลักเกณฑ์ และเชื่อกันว่า การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก2022-23 จะมีความยุติธรรมจากการตัดสินของผู้ตัดสินแน่นอน โดยเฉพาะ "เปาโค้ช"