(https://static.siamsport.co.th/news/2022/05/18/news20220518164421.jpg)
เปิดเงื่อนไขที่จะทำให้ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ต้องมาเตะเพลย์ออฟหาแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ โดยโอกาสเกิดขึ้นยากสุดๆ เพราะต้องให้ "เรือใบสีฟ้า" แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-6 และ "หงส์แดง" เสมอ วูล์ฟส์ 5-5 ในนัดสุดท้าย
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยังคงนำ "หงส์แดง" มีลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ต่อไป หลังจากบุกไปเฉือนเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 ถึงรัง เซนต์ แมรี่ส์ เมื่อวันอังคารที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูล ลงเตะไปแล้ว 37 เกม มี 89 คะแนนรั้งรองจ่าฝูงตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แข่งเท่ากันอยู่ 1 แต้ม ก่อนที่นัดสุดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.นี้ "หงส์แดง" มีโปรแกรมจะเปิดรัง แอนฟิลด์ รับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ส่วน "เรือใบสีฟ้า" เปิดบ้านเจอ แอสตัน วิลล่า
หากทีมของ เป็ป กวาร์ดิโอล่า เอาชนะ "สิงห์ผงาด" ก็จะได้แชมป์ทันทีไม่ว่าผลของคู่ ลิเวอร์พูล จะออกเป็นอย่างไร แต่ถ้า แมนฯ ซิตี้ แพ้แล้ว "หงส์แดง" ชนะก็จะเป็นทีมของ คล็อปป์ ที่แซงเข้าป้ายคว้าแชมป์ ส่วนกรณีเสมอทั้งสองทีมก็เป็น "เรือใบสีฟ้า" ได้แชมป์
อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่แชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้จะตัดสินด้วยการนำ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล มาเตะเพลย์ออฟเช่นกัน แม้อาจเป็นไปได้ยากก็ตาม โดยต้องให้ทั้งคู่มีแต้ม, ผลต่างประตูได้เสีย, ประตูได้, ประตูเสีย และเฮดทูเฮดเท่ากันหมด
ทั้งคู่ฟาดแข้งกันเองในลีกสองเกมและเสมอกัน 2-2 ทั้งสองนัดเท่ากับว่า เฮดทูเฮด เท่ากัน ขณะที่ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีผลต่างประตูได้เสียบวก 72 ประตู ประตูได้ 96 ประตูเสีย 24 ส่วน ลิเวอร์พูล มีผลต่างประตูได้เสียบวก 66 ประตูได้ 91 ประตูเสีย 25
ดังนั้นผลการแข่งขันในนัดสุดท้ายต้องออกมาเป็น แมนฯ ซิตี้ แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-6 และ ลิเวอร์พูล เสมอ วูล์ฟส์ 5-5 จึงจะทำให้ทั้งสองทีมมีผลต่างประตูได้เสียบวก 66 ประตูได้ 96 ประตูเสีย 30 มี 90 คะแนนเท่ากัน และต้องมาตัดสินแชมป์ด้วยการเล่นเกมเพลย์ออฟในที่สุด