[SA SPORT]

ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำว่า "สวัสดีปีใหม่ไทย" มหาสงกรานต์ ปี 2565 ให้กับแฟนบอลไทยทุกท่าน หากใครเดินทางกลับภูมิลำเนา ก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และย้ำอีกที การ์ดอย่าตก เพราะโควิดยังร้ายยิ่งนัก แถมยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นไม่หยุด
นอกจากนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์รีโว่ ไทยลีก 2021-22 มาครองโดยไม่ต้องไปลุ้นถึงนัดสุดท้าย สิ้นสุดการรอคอยมา 3 ปีเต็มนับตั้งแต่ปี 2018

จริงๆ วันนี้อยากจะเขียนถึงทัพ "ปราสาทสายฟ้า" แต่ด้วยประเด็นทีมชาติไทย มันร้อนแรงจริงๆ ทำให้ต้องขอเก็บไว้เหลากันโอกาสหน้า



โดยทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ยังไม่ทันเดินทางไปล่าเหรียญทอง ที่ประเทศเวียดนาม "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีม ขยับทัพด้วยการแต่งตั้ง "มาโน่ โพลกิ้ง" กุนซือทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ลงมาทำหน้าที่แทน "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ

เรียกว่าการขยับตัวครั้งนี้สร้างแรงสะเทือนให้วงการฟุตบอลไทย และ ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ไม่น้อย

เพราะโปรแกรมนัดแรก ไทย บนแผ่นดินเวียดนาม จะหวดแข่งนัดแรก วันที่ 7 พฤษภาคมนี้

นี่ยังไม่รวมเวลาที่จะเก็บตัวฝึกซ้อม และเดินทางไปแข่งขันทับซ้อนกับโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศ ที่กำลังหวดแข้งกันในช่วงโค้งสุดท้าย

นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมฟุตบอลถ้วยอย่าง รีโว่ ลีกคัพ และ ช้าง เอฟเอคัพ นั่นทำให้ "มาดามแป้ง" วอนสโมสร สมาคมฯ และ ไทยลีก ช่วยกันปรับโปรแกรมแข่งขันอีกหน เพื่อหวังเอื้อประโยชน์ให้ทีมไทยและหวังว่าสโมสรจะปล่อยนักเตะไปร่วมฟาดแข้งในซีเกมส์ให้ได้มากที่สุด



ก่อนจะได้ข้อสรุปว่า ศึกรีโว่ ไทยลีก นัดสุดท้าย จากเดิมจะแข่งวันที่ 7 พฤษภาคม ขยับไปเปลี่ยนเป็นจบวันที่ 4 พฤษภาคมแทน

ด้านฟุตบอลถ้วยรีโว่ ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ จากเดิมจะแข่งขันวันที่ 11 พฤษภาคม จะโยกไปเตะวันที่ 25 พฤษภาคม และรอบชิงชนะเลิศ จากเดิมแข่งขันวันที่ 15 พฤษภาคม โยกไปเตะวันที่ 29 พฤษภาคม หรือหลังจบซีเกมส์เกม 1 สัปดาห์



ขณะที่ฟุตบอล ช้าง เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศจะแข่งขันวันที่ 18 พฤษภาคม และรอบชิงชนะเลิศ แข่งขันวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลซีเกมส์พอดี

ซึ่งใน 2 ถ้วยมี ชลบุรี เอฟซี กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ร่วมสังคายนาอยู่ด้วย ซึ่งทั้งคู่มีขุนพลตัวหลักๆ ของทีมชุดซีเกมส​์เพียบ

 ไม่ว่าจะเป็น ทรงชัย ทองฉ่ำ, ฉัตรมงคล เรืองฐนโรจน์ หรือ ชิษณุพงษ์ โชติ ของฝั่ง "ฉลามชล" ด้าน "ปราสาทสายฟ้า" ก็มีทั้ง นพพล ละครพล, อิรฟาน ดอเลาะ และ ศุณณัฏฐ์ เหมือนตา



แต่ทาง ชลบุรี เอฟซี ประกาศว่าจะไม่ปล่อยแข้งในสังกัดไปช่วยชาติ เพราะทีมต้องเตรียมตัวเพื่อให้พร้อมสำหรับทำศึกรีโว่ ลีกคัพ

เช่นเดียวกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยืนยันมาตลอดว่าจะไม่ส่งผู้เล่นไปเล่นทีมชาติที่ไม่ตรงกับโปรแกรมฟีฟ่า เดย์

ซึ่งทั้ง 2 ทำผิดไหม ที่ไม่ช่วยชาติ?

ต้องบอกว่าไม่ผิด เพราะสโมสรมีสิทธิ์ เนื่องจากโปรแกรมแข่งขันซีเกมส์ ไม่ตรงกับช่วงฟีฟ่าเดย์อยู่แล้ว

เมื่อถึงตรงนี้ทุกอย่างจึงดูวุ่นไปหมด "มาโน่" เองคงไม่ได้นักเตะตัวที่ดีที่สุดไปแข่งอยู่แล้ว แม้จะสามารถส่งผู้เล่นโควต้าเกินได้ 3 คน แต่หากฐานของนักเตะไม่แกร่ง โอกาสจะคว้าน้ำเหลวก็มีสูง



จริงๆ การเปลี่ยนกุนซือบ่อยๆ ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง การทำทีมต้องหาคนที่ "เหมาะสม" และเข้าใจทีมนั้นๆ จริงๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี

อย่าลืมว่าสิ่งที่ทำให้ "มาโน่" พา "ช้างศึก" ผงาดคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพราะเขาคุ้นเคยและรู้จักนักเตะทุกคน จนสามารถปรุงแต่งเครื่องยนต์ทีมไทย พุ่งชนความสำเร็จ

 แต่ครั้งนี้ "มาโน่" เองมีข้อมูลชุดนี้อัดน้อยนิด แถมคิวฝึกซ้อมรวมตัวกันแทบไม่มี

นอกจากนี้หลังปรับโปรแกรมครั้งนี้ยังส่งผลระยาวต่อโปรแกรมฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้ายที่อุซเบกิสถาน ที่จะฟาดแข้งในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ซึ่ง ไทย จะลงสนามนัดแรก วันที่ 2 มิถุยายน กับ เวียดนาม ดังนั้นการเตรียมทีมแทบไม่มี



ดังนั้นหากซีเกมส์ ไทย ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ตามเป้าหมาย รับรองว่าทัวร์จากแฟนบอลไทยถล่มแน่

ยิ่งผลงานของ ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ฟอร์มไม่โสภา แรงสะเทือนจะหนักเป็นเท่าตัวอีก

แถมการแก้ปัญหาต่างๆ เหมือนจะเกาไม่ถูกที่คันเสียด้วย เรียกว่าตอนนี้อนาคต "ฟุตบอลไทย" ในซีเกมส์น่าเป็นห่วงจริงๆ