• Welcome to กลุ่มคนเล่นบาคาร่า SA GAMING คาสิโนออนไลน์รายใหญ่ของโลก.
 

ข่าว:

แฟนคลับที่ชื่นชอบเล่นคาสิโนออนไลน์ SA GAMING เขารู้กัน

แทงบอลออนไลน์ SBOBET เว็บตรงไม่มีขั้นต่ำ เว็บตรงบาคาร่าออนไลน์ UFA350 ไม่มีขั้นต่ำ
ปั่นสล็อต เว็บรวมสล็อตออนไลน์ UFABET350 แจกเครดิตฟรี บาคาร่าออนไลน์ SAGAME66 อันดับ 1
เว็บคาสิโนออนไลน์ SSGAME6666 เครดิตฟรี ไม่ต้องฝาก แทงบอลออนไลน์ UFAC4 เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
สมัครสมาชิก PG SLOT สล็อตอันดับ 1 พนันบอลออนไลน์ UFAZEED เดิมพันไม่มีขั้นต่ำ
ทางเข้าเว็บตรง บาคาร่า SA GAMING เว็บตรงคาสิโนออนไลน์ SAGAME350 รวมคาสิโนทุกค่าย
เว็บบอร์ดพนันออนไลน์ รายใหญ่ของไทย COINBET999 เว็บรวมคาสิโนออนไลน์ ดีที่สุดในไทย 2024

เปิดแผล ‘ช้างศึก’ ทำไมถึงชวดคว้าทอง ‘ซีเกมส์’

เริ่มโดย SA GAMING SOCCER, พ.ค 24, 2022, 09:18 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

SA GAMING SOCCER



เปิดแผล 'ช้างศึก' ทำไมถึงชวดคว้าทอง 'ซีเกมส์'

สุดท้ายแล้ว "ช้างศึก" ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ก็ไม่สามารถทวงแชมป์ซีเกมส์กลับมาได้ หลังจากอกหักพ่ายให้กับเจ้าภาพ "ดาวทอง" เวียดนาม คู่ปรับเบอร์ 1 ไปอย่างน่าเสียดาย

ที่ต้องบอกว่าน่าเสียดายก็เพราะว่าจากฟอร์มการเล่นตลอดทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ทีมชาติไทยถือว่าทำผลงานได้ดีแล้ว ไม่นับนัดแรกที่พ่ายมาเลเซีย เพราะเหลือ 10 คน นัดอื่นๆ ช้างศึกก็เป็นฝ่ายไล่ขโยกคู่แข่งแทบทั้งสิ้น

แต่ต่อให้เล่นดีแค่ไหน สุดท้ายถ้าไม่สามารถคว้าเหรียญทองกลับมาครองได้ ก็คือไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นมันก็อยู่ในจุดที่ต้องย้อนกลับมาดูกันว่าทำไมทีมชาติไทยถึงผิดหวังอีกครั้ง

ปัญหาข้อแรกที่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของทีมชุดนี้เลย คือปัญหาเรื่องของการเตรียมทีม ด้วยความที่ฟุตบอลไทยลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา เจอกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในช่วงเดือนมกราคม

ทำให้บางสโมสรขอเลื่อนโปรแกรมกันหลายครั้ง จนทำให้การขยับโปรแกรมส่งผลถึงช่วงท้ายฤดูกาล ครั้นจะขยับโปรแกรมเพื่อให้มีช่วงเวลาในการเตรียมตัวมากขึ้น ก็ทำได้ยากลำบาก

เอาจริงๆ ตอนแรกโปรแกรมไทยลีกนัดสุดท้าย จะต้องหวดกันในวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับโปรแกรมนัดแรกของกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยการเจรจาของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม กับสโมสรในไทยลีก ทำให้อย่างน้อยเลื่อนโปรแกรมนัดสุดท้ายจบวันที่ 4 พฤษภาคม พอให้ยืดหยุ่นขึ้นมาบ้าง

แต่สุดท้ายแล้ว กว่าที่ทีมชาติไทยชุดนี้จะได้มีเวลาลงซ้อมแบบครบ 20 คนครั้งแรก เป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นก่อนจะเตะกับ มาเลเซีย ในเกมนัดแรก

ถ้าลองไปเปรียบเทียบกับทีมอื่นๆ ที่มาในซีเกมส์ครั้งนี้ เวียดนามนั้นมีเวลาซ้อมกว่า 4 เดือนเต็ม โดยที่ปาร์ค ฮังซอ เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ มีเวลาคลุกคลีกับนักเตะ ใส่แผนการเล่นต่างๆ และเลือกนักเตะอายุเกินเข้ามาใส่ในทีมชุดนี้ได้อย่างเหมาะสม แถมไม่มีดราม่าที่จะเลือกนักเตะที่ดีที่สุดมาเล่น เพราะพวกเขาไม่ได้มีโปรแกรมชนกับลีกเหมือนประเทศไทย

หรืออย่างอินโดนีเซียเอง อาจจะเจอปัญหาเรื่องการเรียกตัวนักเตะมาบ้าง เพราะบางคนเล่นอยู่ต่างประเทศ กว่าจะมาร่วมทีมได้ก็เกมนัดที่สอง แต่นักเตะคนอื่นๆ ในทีมนั้น ได้รวมตัวฝึกซ้อมและยังไปเก็บตัวต่างประเทศอีกด้วย ทำให้มีความพร้อมพอสมควร

ปัญหาอีกข้อที่ตามมาจากโปรแกรมการแข่งขันลีก ก็คือเมื่อฟุตบอลลีกยังไม่จบดี แถมในช่วงซีเกมส์เองก็จะมีโปรแกรมฟุตบอลถ้วยที่เหลืออยู่ทั้ง ช้าง เอฟเอ คัพ กับ รีโว่ ลีก คัพ ในรอบรองและรอบชิงชนะเลิศ

เมื่อบวกกับการแข่งขันซีเกมส์ไม่ใช่ช่วงฟีฟ่าเดย์ ทำให้สโมสรนั้นสามารถเลือกที่จะไม่ปล่อยตัวนักเตะในสังกัดของตัวเองมาร่วมทีมชุดนี้ได้ แม้ว่าทางมาดามแป้งจะพยายามต่อสายคุยกับเหล่าประธานสโมสรแล้ว แต่ก็ไม่สามารถได้ตัวมาร่วมทีมอยู่ดี

เดิมทีผู้เล่นรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ยังมีตัวผู้เล่นที่เป็นตัวหลักๆ อย่างเช่น ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา, นพพล ละครพล จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ กฤษดา กาแมน, ฉัตรมงคล เรืองฐนโรจน์, บุคฆอรี เหล็มดี จากชลบุรี เอฟซี เป็นต้น

ซึ่งถ้าได้ผู้เล่นเหล่านี้มาจะช่วยยกระดับทีมชาติไทยชุดนี้ได้เพิ่มอีกมากมายแน่นอน

อีกหนึ่งปัญหาเลยที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาเป็นทอดๆ จากการขาดเวลาเตรียมตัว มีเวลาฝึกซ้อมน้อยแล้วนั้น คือเรื่องของสภาพร่างกายนักกีฬาที่มาแข่งขันครั้งนี้

อย่างที่รู้กันว่าฟุตบอลลีกลงเตะกันมาอย่างต่อเนื่อง นักกีฬาก็ต้องลงเล่นมาโดยตลอด แล้วมาเจอกับการแข่งขันซีเกมส์ ทัวร์นาเมนต์ที่เตะแบบไม่ค่อยเป็นปกติเท่าไหร่ เพราะต้องลงเล่นแบบวันเว้นวัน บวกกับผลการแข่งขันนัดแรกไม่เป็นใจ ทำให้เกมที่เหลือในรอบแรกต้องจัดเต็มเกือบทุกนัด ทำให้ไม่มีจังหวะให้ได้ฟื้นฟูร่างกายมากเท่าที่ควร

เรียกว่าความเหนื่อยสะสมมันค่อยๆ ทวีคูญมากยิ่งขึ้น บวกกับในรอบตัดเชือก ที่ต้องเตะแบบ 120 นาทีกับทีมที่เข้มข้นแบบอินโดนีเซีย สุดท้ายมันมาออกชัดเจนในรอบชิงชนะเลิศ ที่แทบจะไม่มีแรงเพรสซิ่งหรือแรงในการทำเกมรุก จนมาเสียประตูในช่วงท้ายเกมอย่างที่เห็นกัน

และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องความเหนื่อยสะสม จุดหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าขุมกำลังสำรองของทีมชุดนี้ ไม่ได้ดีเทียบเท่ากับชุดตัวจริงได้

เราลองย้อนกลับไปตอนเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่ได้แชมป์ มาโน่ โพลกิ้ง สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนนักเตะได้แบบไม่เคอะเขิน พร้อมเปลี่ยนผู้เล่นตัวหลักออกมาพักโดยที่สำรองก็ทำผลงานออกมาได้ดีไม่แพ้กัน

แต่กลับมาในครั้งนี้ เราแทบจะมอง 11 ผู้เล่นตัวจริงของทีมชาติไทยออกมาได้แบบไม่ผิดเพี้ยนเลยก่อนที่จะประกาศรายชื่อออกมาด้วยซ้ำ เพราะนั่นคือชุดแบบที่ดีที่สุด แบบที่คนอื่นไม่สามารถเล่นให้ทดแทนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

วาง 11 ตัวจริงของทีมชาติไทย จะมีเพียงตำแหน่งเดียวที่ถูกสลับไปมาก็คือกองหน้าตัวเป้า ระหว่าง กรวิชญ์ ทะสา กับ พาตริก กุสตาฟส์สัน ที่มักจะสลับกันลงเล่น

ที่เห็นได้ชัดว่าสำรองของไทยทดแทนไม่ได้ คือเกมกับอินโดนีเซีย ที่ตามหลักแล้วในทัวร์นาเมนต์นี้สามารถเปลี่ยนได้ 5 คน ใน 3 ครั้ง แต่ 90 นาทีเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น ก่อนจะมาค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนตอนต่อเวลาพิเศษ เพราะนักเตะบางคนหมดแรงกันไปแล้ว

สุดท้ายแล้วปัญหาของทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ชุดนี้คือเรื่องของการเตรียมตัวไม่ไปพร้อมกับความคาดหวัง เชื่อว่าต่อให้พูดว่าเอาชุดนั้น ชุดนี้ไปแข่ง แต่สุดท้ายความคาดหวังมันก็คือเหรียญทองอยู่ดี ซึ่งการจะได้เหรียญทอง มันควรจะต้องมาพร้อมกับการเตรียมทีมที่ดีกว่านี้

ดังนั้น มันก็คงต้องย้อนกลับไปที่หัวเรือใหญ่อย่างสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่จะต้องวางแผนกันให้ดีตั้งแต่เนิ่นๆ

เพราะซีเกมส์ที่กัมพูชา มันก็มาจ่อรอในปีหน้าแล้วเช่นกัน

Similar topics (5)

SITEMAP : บทความคาสิโน SA GAMING | แนะนำเว็บคาสิโนเครดิตฟรี มีทดลองเล่น

เว็บตรงสล็อต JILI SLOT สมัครเล่นรับฟรีสปินทันที แทงหวยออนไลน์ UFA350 LOTTO แทงได้ทุกเลข ไม่อั้น ทางเข้าเล่นบาคาร่า AE SEXY สมัครเล่นบาคาร่าออนไลน์ SAGAMING350 รับโบนัส 50% ฟรี เว็บตรงสล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ