[SA GAMING SOCCER]

แฟนบอล "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด อุ่นใจ หลังสถิติในการพบกันในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เหนือกว่า "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ใน แถม คาร์โล อันเชล็อตติ ก็ยังมีสถิติคุมทีมเอาชนะทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้มากกว่าอีกด้วย

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง เรอัล มาดริด แชมป์ 13 สมัย จากสเปน กับลิเวอร์พูล แชมป์ 6 สมัยจากอังกฤษ ที่จะทำการแข่งขันกันในค่ำคืนนี้ ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส

ล่าสุดสื่อทั่วยุโรป ต่างหยิบยกเอาสถิติการพบกันของทั้งคู่มานำเสนอ ซึ่งผลปรากฎว่า ถ้าหากนำเฉพาะในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั้น "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ทำผลงานได้ดีกว่า เมื่อเอาชนะไปได้ทั้งหมด 4 จาก 8 นัด ส่วน ลิเวอร์พูล ชนะไป 3 นัด และเสมอ 1 นัด



สถิติการพบกันของ ลิเวอร์พูล กับ เรอัล มาดริด ใน UCL

28/05/1981 : ลิเวอร์พูล 1-0 เรอัล มาดริด (รอบชิงชนะเลิศ)

26/02/2009 : มาดริด 0-1 ลิเวอร์พูล (รอบ 16 ทีม เลกแรก)

11/03/2009 : ลิเวอร์พูล 4-0 เรอัล มาดริด (รอบ 16 ทีมเลกสอง)

23/10/2014 : ลิเวอร์พูล 0-3 เรอัล มาดริด (รอบแบ่งกลุ่ม)

05/11/2014 : เรอัล มาดริด 1-0 ลิเวอร์พูล (รอบแบ่งกลุ่ม)

27/05/2018 : เรอัล มาดริด 3-1 ลิเวอร์พูล (รอบชิงชนะเลิศ)

07/04/2021 : เรอัล มาดริด 3-1 ลิเวอร์พูล (รอบ 8 ทีม เลกแรก)

15/04/2021 : ลิเวอร์พูล 0-0 เรอัล มาดริด (รอบ 8 ทีมเลกสอง)

แต่ถ้าหากนับเฉพาะในรอบชิงชนะเลิศ ทั้งคู่เสมอกัน 1-1 โดย ลิเวอร์พูล เคยเอาชนะไปได้ก่อนในรอบชิงชนะเลิศ ปี 1981 ส่วน มาดริด เพิ่งเอาชนะไปได้ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อปี 2018 ส่วนการพบกัน 5 นัดหลังสุด ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเอาชนะ เรอัล มาดริด ได้เลยโดยแพ้ไปถึง 4 และเสมอ 1 นัด ในรอบ 8 ทีมเลกที่สองเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

นอกจากสถิติของทีมในการพบกันจะเหนือกว่าแล้ว คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของ เรอัล มาดริด ยังมีสถิติคุมทีมเอาชนะทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้มากกว่า โดยทั้งคู่เคยเจอกันมาทั้งหมด 9 ครั้ง อันเชล็อตติ คุมทีมเอาชนะไปได้ถึง 4 ครั้ง แพ้ 2 ครั้ง และเสมอ 3 ครั้ง

ส่วนความพร้อมก่อนเกมนี้ เรอัล มาดริด ของ อันเชล็อตติ ได้รับข่าวดีเมื่อจะได้ ดาวิด อลาบา ปราการหลังทีมชาติออสเตรีย หายเจ็บกลับมาประจำการอีกครั้ง โดยจะลงเล่น เอแดร์ มิลิเตา ส่วนแนวกลาง โทนี่ โครส, คาเซมิโร่ และลูก้า โมดริช พร้อมลงทำเกมรุกอยู่หลัง คาริม เบนเซม่า กับ วินิซิอุส จูเนียร์ส ที่ซัดรวมกันไปแล้ว 65 ประตูในทุกถ้วยทุกรายการ



ด้าน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้รับข่าวดีเมื่อจะได้ ฟาบินโญ่ กับ ติอาโก้ อัลคันทาร่า กลับมาประจำการในแดนกลางอีกครั้ง โดยจะลงเล่นร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อีกคน ในขณะที่แผงหลัง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ฟิตเต็มร้อยกลับมายืนคู่กับ โจเอล มาติป อีกครั้ง ส่วน 3 ประสานในแนวรุก คล็อปป์ ยังไว้ใจให้ หลุยส์ ดิอาซ ลงเล่นร่วมกับ โม ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ เหมือนเดิม