[SA SPORT]

ปฏิกริยาของแมนฯซิตี้ หลังจากลิเวอร์พูลแซงขึ้นนำที่สองแต้มแบบเดี่ยวๆข้ามคืนออกมาดุดันตามคาด

     เกมนี้พวกเขารับมือไบรท์ตันที่ต้องบอกว่า "ล่อเป้า" มาตลอดนับจากทีมชายทะเลภาคใต้อังกฤษทีมนี้เลื่อนชั้นขึ้นมายังลีกสูงสุด

ทีมเป๊ปพร้อม

     หลังจากสภาพทีมดูมีปัญหาในการเล่นเกมเอฟเอ คัพ นัดนี้ เป๊ป ได้ชุดนักเตะเกือบครบขาด ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ๊กขวาที่เจ็บ ส่วน รูเบน ดิอาส ที่มีชื่อสำรองหลังจากซ้อมมาตลอดสัปดาห์ นอกนั้นตัวเต็มครับ

     แบ๊กโฟร์ยังคงจัดให้ กานเซโล เล่นแบ๊กขวา คู่เซนเตอร์ลาปอร์ก-สโตน ส่วนแบ๊กซ้ายไม่ส่ง ซินเชนโก ลงเลือก เนธาน อาเก้ ไปยืนทางนั้นแทน ขณะที่แดนกลางชุดใหญ่เลยครับ เควิน เดอ บรอยน์, โรดริ และ กุนโดกัน ที่ฟิตเปรี๊ยะ ส่วนข้างหน้าเกมนี้ ไม่มี "ศูนย์หน้า" สลับกันไปยืน "ฟอลส์ไนน์" ส่วนใหญ่เป็น แบร์นานโด ซิลวา โดย ฟิล โฟเดน ทางซ้ายและ ริยาด มาห์เรส ทางขวา



พอตเตอร์ ติดใจ 5-3-2

     หลังจากปราบอาร์เซนอลและสเปอร์สได้สองเกมติดต่อกัน เกรแฮม พอตเตอร์​ วางแผนใช้ระบบสามเซนเตอร์สองวิงแบ๊ก หรือหลังห้าต่อเนื่อง แดนกลางสามโดยใช้หน้าคู่

     สามเซนเตอร์ เวลต์แมน, ดังค์, กูรูเรยา วิงแบ๊กขวา แลมพ์ตี ด้านซ้าย ซอลลี มาร์ช

     แดนกลางสามคน กรอส, แมกอลิสเตอร์, ไกเซโด โดย ไกเซโด เป็นตัวตัดเกมเพราะนัดนี้ขาด อีฟ บิสซูมา ที่โดนแบนหนึ่งนัดเพราะใบเหลืองสะสม ส่วนหน้าคู่ มหาเทพ เวลเบค กับ เอ็มเวปู

ครึ่งแรกเรือใบเจาะยาก

     ตามสูตรละครับแทกติกการเล่นของสองทีม ทีมเรือใบสีฟ้า ครอบครองเกมได้หมด

     ขณะที่ไบรท์​ตันตั้งรับ แถมยังออกบอลไม่ได้เกินสามพาส ก็โดนรุมเพรสเสียบอล กลับมาเป็นซิตี้ครองบอลได้ต่อเนื่อง เพียงแต่ว่าการเจาะพื้นที่สุดท้ายยังไม่ชัดเจน การขึ้นบอลส่วนใหญ่ออกมาทาง ริยาด มาห์เรส แต่เจาะฝั่งซ้ายของไบรท์ตันไม่ได้

     บอลตามช่องไม่ค่อยมี เพราะหลังห้าของไบรท์ตันยืนกันแน่น ออกข้างฝั่ง โฟเดน มีเดอ บรอยน์ สลับกันไปก็ทำอะไรได้ยาก บอลเข้าเขตโทษน้อยอยู่ ทำให้โอกาสยิงมีไม่มากในครึ่งแรก 7 ครั้งเข้ากรอบ 1 ส่วนไบรท์ตันก็โต้กลับได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่มีจังหวะยิงประตูแมนฯซิตี้ได้เลย

     ที่จะได้ประตูมาจากจังหวะสวนกลับที่ไบรท์ตันเสียบอลแดนบน และการบิลด์ อัพ จากแดนหลัง ซานเชส, ดังค์ ส่งบอลกันพลาดสองสามครั้งแต่รอดตัวไม่เสียประตูเอง

     แม้ครึ่งแรก 0-0 แบบดูอึดอัดนิดหน่อยเพราะหาโอกาสยิงยากแต่รูปเกมนั้นมันน่าจะมีโอกาสได้ในอีก 45 นาทีครึ่งหลัง เพราะไบรท์ตันเล่นไม่ค่อยละเอียดด้วย เสียบอลง่ายๆด้วยเช่นกัน



เป๊ปปรับแทกติกครึ่งหลัง

     เป๊ป ถอด อาเก้ออก ส่ง รูเบน ดิอาส ลงมา แล้วโยก กานเซโล ไปยืนแบ๊กซ้าย ใช้ จอห์น สโตน เล่นแบ๊กขวา ดิอาส กลับมาเข้าคู่กับ ลาปอร์ก การเปลี่ยนตัวไม่ได้มีผลต่อการได้ประตูแรกเพราะ มันเกิดขึ้นจากจังหวะไบรท์ตันบุกเข้าหาแมนฯซิตี แล้วเสียบอลแดนบน กุนโดกัน ตัดบอลได้เปิดให้ เดอบรอยน์​พาบอลทะลุจนถึงหน้าเขตโทษก่อนบอลทะลักไปที่ มาห์เรส ยิงในระยะ 10 หลาแฉลบเข้าประตูไป 1-0

     จากนั้นประตูที่สองน.65 จังหวะเตะมุม... ลูกสูตร โฟเดน ยิงจากระยะ 30 หลาแฉลบ เอมเวปู เข้าประตูไป

     พอตเตอร์​ เปลียนตัวหลังจากเสียสองประตู ถอด แลมพ์ตี ออก ส่ง อดัม เวบส์เตอร์ ลงมา พร้อมทั้งปรับเป็นหลังสี่ เล่น 4-4-2 แทน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกมเปลี่ยนแปลงไป แมนฯซิตี้ ครองบอลเล่นสบายไร้ความกดดัน

     ประตู 3-0 น.81 ลงโทษการบิลด์ อัพของ ไบรท์ตัน จาก ซานเชส และแนวรับ โดน ซินเชนโก ตัดบอลได้ บอลถึง แบร์นาโด ซิลวา ปั่นเข้ามุมประตูง่ายดาย



     แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บสามคะแนนสบายๆจากการถล่มไบรท์ตัน 3-0 "ยึดจ่าฝูง" คืนกลับมานำหนึ่งแต้ม โดยผลต่างยังตามอยู่+6

     ชัยชนะต่อไบรท์ตันก็เป็นไปตามคาด...ไม่ได้มีอะไรให้ต้องลุ้นมาก หลังจากยึด "จ่าฝูง" คืนมาน่าจะสร้างความมั่นใจให้กับทีมเป๊ป ด้วยโปรแกรมที่กลับมาแข่งก่อนวันเสาร์​ที่ 23 เม.ย. เจอกับวัตฟอร์ด ส่วนลิเวอร์พูลเตะวันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย. พบกับเอฟเวอร์ตันในบ้าน

     เป๊ป จะชิงจังหวะฉีกหนีเป็น 4 แต้มให้ได้ก่อน โยนความกดดันมาให้ลิเวอร์พูลในการทำศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์​บี แมตช์

     ถ้าเด็กหงส์ทำได้ก็จะกลับมาตามแต้มหนึ่งต่อไป....เกิดพลาดเกมแบบนี้แล้วออกเสมอ ซิตี้นำ 3 แต้มเลย ก็ได้เปรียบมากขึ้นกว่านำ 1 แต้ม

โปรแกรม 6 นัดสุดท้ายของแมนฯซิตี้
วันเสาร์ที่ 23 เม.ย. แมนฯซิตี vs วัตฟอร์ด
วันอังคารที่ 26 เม.ย. แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบรองชนะเลิศนัดแรก
แมนฯซิตี้ vs เรอัล มาดริด
วันเสาร์ที่ 30 เม.ย. ลีดส์ vs แมนฯซิตี้
วันพุธที่ 4 พ.ค. แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบรองชนะเลิศนัดสอง
เรอัล มาดริด  vs แมนฯซิตี้
วันอาทิตย์ที่8 พ.ค. แมนฯซิตี้ vs นิวคาสเซิล
วันเสาร์ที่ 15 พ.ค. เวสต์แฮม vs แมนฯซิตี้
วันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. แมนฯซิตี  vs แอสตัน วิลล่า
**รอยืนยันโปรแกรม แมนฯซิตี้ เยือนวูล์ฟแฮมป์ตันว่าจะลงวันไหน

     หากดูชื่อคู่แข่งพรีเมียร์ลีกที่เหลือ...ทีมที่อาจพอตัดแต้มแมนฯซิตี้ ได้คงมีวูล์ฟแฮมป์ตัน นอกนั้นไม่น่าพลาดสามแต้ม อีกช่วงหนึ่งก็คือสัปดาห์หน้ารอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาเยือน.....เรือใบจะได้รับผลกระทบจากเรอัล มาดริด แล้วส่งผลต่อเกมพรีเมียร์ลีกมากน้อยขนาดไหน