ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส พร้อมทุ่มเงิน 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,100 ล้านบาท) เพื่อคว้าตัว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เซนเตอร์แบ็กชาวอังกฤษ จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้

ก่อนหน้านี้ "เดอะ ซัน" สื่อดังในอังกฤษ รายงานว่า "เปแอสเช" ได้ยื่นข้อเสนอให้กับ แม็กไกวร์ ตั้งแต่ช่วงตลาดพ่อค้าแข้งรอบ 2 เดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่ตลาดปิดก่อนที่จะได้บทสรุป

สำหรับ แม็กไกวร์ ต้องการที่จะจบช่วงเวลา 4 ปีที่สุดย่ำแย่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ขณะที่ แซงต์-แชร์กแมง พร้อมจ่ายค่าเหนื่อย 200,000 ปอนด์ (ราว 8.4 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ให้กับกองหลังทีมชาติอังกฤษ

แม็กไกวร์ วัย 30 ปียังเหลือสัญญากับ "ผีแดง" 2 ปี แต่ตอนนี้อนาคตของเขากับสโมสรแทบจะมืดมิด โดยนักเตะได้ลงเล่นตัวจริงเกมเดียวจาก 8 แมตช์หลังสุดในพรีเมียร์ลีก ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเป็นกัปตันทีม

นอกจากนี้ อดีตดาวเตะเลสเตอร์ ซิตี้ ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวสำรองเพียงแค่ 2 นาทีในเกมนัดชิง คาราบาว คัพ ที่ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่สนามเวมบลีย์ พร้อมทั้งได้ชูโทรฟี่แชมป์ร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพชาวโปรตุกีส

แม้ว่า แม็กไกวร์ ต้องเจอวิบากกรรมกับ แมนฯ ยูฯ แต่สำหรับทีมชาติอังกฤษนั้น กุนซือแกเร็ธ เซาธ์เกต ยังคงไว้วางใจเจ้าตัว และน่าจะได้ลงเล่นตัวจริงในเกมรอบคัดเลือก ศึกยูโร 2024 ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ ทั้งๆ เขาไม่ค่อยได้เล่นให้กับ "เร้ด เดวิลส์" ก็ตาม

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวระดับหัวแถวออกโรงแสดงมุมมองถึงอนาคตการค้าแข้งของ เฟรงกี้ เดอ ยอง กองกลางทีม บาร์เซโลน่า ในซีซั่นหน้าหลังเจ้าตัวตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นคำรบสอง

เดอ ยอง อดีตดาวเตะทีม อาแจ็กซ์ ได้รับความสนใจจาก เอริค เทน ฮาก ลูกพี่คนสนิทมากเป็นพิเศษหลังจากกุนซือดัตช์ตัดสินใจย้ายจากลีกบ้านเกิดรับงานกับ ผีแดง และหวังคว้าสตาร์ทีม บาร์เซโลน่า มาร่วมงานกันอีกหนในเมืองผู้ดี

อย่างไรก็ดี กองกลางวัย 25 ปีปฏิเสธที่จะอำลาสังเวียนแข้ง คัมป์นู กระทั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เดอ ยอง ก็ถูกลือกับ ผีแดง อีกรอบว่าเขาสนใจย้ายมาจับคู่กับ กาเซมีโร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจาก เทน ฮาก สำแดงฝีมือพาทีม เร้ด เดวิลส์ เขี่ย บาร์ซ่า ตกรอบเพลย์ออฟถ้วย ยูโรปาลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่

ต่อกรณีดังกล่าว ล่าสุด โรมาโน่ ได้แสดงมุมมองว่า เดอ ยอง ไม่คิดย้ายมาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นเดิมในซีซั่นหน้าเนื่องจากเขามีความสุขดีกับลีกกระทิงดุ

"แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการ เดอ ยอง และมันไม่ใช่ข่าวใหม่ในตอนนี้" โรมาโน่ เผย

"เรารู้ว่า เอริค เทน ฮาก เป็นแฟนตัวยงของ เดอ ยอง เขาเป็นแฟน เดอ ยอง เสมอ และมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เอริค เทน ฮาก รักที่จะได้ เดอ ยอง มาอยู่กับเขา"

"แต่ความเป็นจริงในวันนี้คือ เฟรงกี้ ไม่ได้ติดต่อกับใครว่าเขาต้องการย้าย เฟรงกี้ มีความสุขกับ บาร์เซโลน่า เขาเป็นนักเตะคนสำคัญของ ชาบี และตอนนี้สถานการณ์ยังตกอยู่ในการควบคุมของ เฟรงกี้ เดอ ยอง และ บาร์เซโลน่า"

"จากนั้นเราจะรอดูกันในช่วงซัมเมอร์ แต่ตอนนี้ เฟรงกี้ เดอ ยอง คิดถึงแต่ บาร์เซโลน่า และเขามีส่วนร่วมกับโปรเจ็คท์ 100%"

"เรารู้ว่าในช่วงซัมเมอร์ สิ่งต่างๆสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เราต้องรอดูกัน ตอนนี้เรารู้ว่า เอริค เทน ฮาก รัก เฟรงกี้ เดอ ยอง มาก แต่มันไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึง"

แกรี่ เนวิลล์ เฉ่ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ทำท่าเหมือนกับว่าอยากโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนาม โดยบอกว่าเกมนี้ บรูโน่ แสดงพฤติกรรมที่น่าอายหลายช่วงด้วย

แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตำหนิ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลาง "ปีศาจแดง" ที่ทำท่าเหมือนกับว่าอยากจะโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ระหว่างเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่แพ้ ลิเวอร์พูล 0-7 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา

ก่อนลงเล่นเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ฮึกเหิมกันสุดๆ หลังจากทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง แต่กลับกลายเป็นว่าเกมนี้พวกเขาเล่นกันได้ย่ำแย่จนแพ้แบบยับเยิน ซึ่งในช่วงที่ทีมตามหลังไปแล้ว 6 ลูกนั้น เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจเปลี่ยน มาร์คัส แรชฟอร์ด ออกจากสนาม และตอนนั้น บรูโน่ ก็แสดงท่าทางไม่พอใจบางอย่าง โดยหลายคนเชื่อว่าเขาอยากโดนถอดออกจากสนาม

เนวิลล์ เผยระหว่างทำหน้าที่กูรูให้ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาของอังกฤษว่า "บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยืนอยู่กลางสนามพร้อมกับชูแขนขึ้นราวกับจะถามว่า -ทำไมผมถึงไม่โดนถอดออก ?- เนี่ยนะ พูดตรงๆ เลยนะ ผมต้องบอกเลยว่าพฤติกรรมบางอย่างในครึ่งหลังของเขามันน่าขายหน้ามาก"

"ครึ่งหลังมันเป็นครึ่งที่น่าขายหน้าและเลวร้ายสุดๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือกัปตันทีมอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ผมคิดว่าเกมนี้เขาทำเรื่องที่น่าอับอายหลายช่วง แต่ผมต้องบอกเลยว่านี่ไม่ใช่ศักยภาพ, สปิริต หรือฟอร์มการเล่นตามแบบปกติของพวกเขา และเขา (เอริค เทน ฮาก) จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างรวดเร็วแน่ๆ"

อารมณ์คงไม่ต่างกับ "เดอะ กูนเนอร์" หลายๆ คนสำหรับ เอียน ไรท์ ตำนานดาวยิง อาร์เซน่อล ที่แหกปากแทบคลั่งจังหวะที่ รีสส์ เนลสัน กดประตูชัยช่วงทดเจ็บ ช่วย "ไอ้ปืนใหญ่" พลิกดับ บอร์นมัธ สุดมันส์ 3-2 เมื่อคืนวันเสาร์

เอียน ไรท์ อดีตยอดกองหน้า อาร์เซน่อล ระเบิดอารมณ์แบบสุดสะใจตอนที่ รีสส์ เนลสัน ยิงประตูสุดสวยช่วย "ไอ้ปืนใหญ่" เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พลิกชนะ บอร์นมัธ 3-2 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา

เกมดังกล่าว อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายตามหลัง บอร์นมัธ ก่อนด้วยสกอร์ 0-2 แต่ โธมัส ปาร์เตย์ กดประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 62 ก่อนที่ เบน ไวท์ ยิงตีเสมอนาทีที่ 70 ซึ่งเกมทำท่าจะจบลงด้วยการเจ๊า 2-2 แต่แล้วนาทีที่ 90+7 เนลสัน ที่ลงสำรองช่วงกลางครึ่งหลัง ยิงอย่างสวยช่วย อาร์เซน่อล พลิกคว้าชัย 3-2 พร้อมเก็บสามแต้มสำคัญ ซึ่งทำเอา ไรท์ ที่นั่งชมเกมทางทีวีกับเพื่อนๆ เก็บอารมณ์แห่งความสุขไว้ไม่อยู่ พร้อมกับแหกปากตะโกนด้วยความสะใจตอนที่ เนลสัน กดประตูชัย

ขณะที่ แกรี่ ลินิเกอร์ ตำนานหัวหอก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่อยู่ในสถานการณ์ด้วย ก็รู้สึกชอบใจการระเบิดอารมณ์แบบไม่มียั้งของ ไรท์ พร้อมถ่ายคลิปบรรยากาศดังกล่าวโพสต์ลง ทวิตเตอร์ ของตัวเองด้วยเช่นกัน

สำหรับชัยชนะนัดนี้ทำให้ อาร์เซน่อล ที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก มี 63 แต้ม จากการลงแข่ง 26 นัด ฉีกหนี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับสอง เป็น 5 แต้มเท่าเดิม

ถึงกับร้อง "ว้าว" เลยทีเดียวสำหรับกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังทราบสถิติ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ลูกจุดโทษในเกมลีกมา 32 นัดติด พร้อมระบุ มันเกิดขึ้นได้อย่างไรเนี่ย?

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับว่า ตนรู้สึกประหลาดใจและไม่รู้มาก่อนว่า "หงส์แดง" ไม่ได้ลูกจุดโทษในศึก พรีเมียร์ลีก มา 32 เกมติด ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะเปิดรัง แอนฟิลด์ ดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมนี้

ครั้งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษในเกมลีก เกิดขึ้นในนัดที่เจอกับ วัตฟอร์ด เมื่อเดือนเมษายน ปีที่แล้ว และนับจากวันนั้น พวกเขาได้สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษทีมคู่แข่งมากถึง 1,138 ครั้ง แต่ไม่เคยได้ลูกโทษเลยแม้แต่หนเดียว ซึ่งทำเอา คล็อปป์ งงไม่น้อย 

"นี่ขนาดเราเป็นทีมที่ครองบอลมากสุดอันดับสอง และยิงตรงกรอบมากสุดอันดับสองเลยนะ" ยอดกุนซือชาวเยอรมันวัย 55 ปี กล่าวด้วยความเซอร์ไพรส์ หลังทราบข้อมูลสถิติดังกล่าวจากนักข่าว "เราเข้าไปอยู่ในกรอบเขตโทษของทีมคู่แข่งได้บ่อยๆ ซึ่งผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร"

"จริงๆ แล้วมันก็มีการตัดสินแปลกๆ มากมาย ที่ทำให้คุณร้อง -ว้าว- มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย แต่การไม่ได้ลูกจุดโทษยาวนานขนาดนี้ มันเป็นอะไรที่ตลกเหมือนกันนะ"

เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ นายทวาร แอสตัน วิลล่า เชื่อว่าตนเป็นไอดอลให้เด็กๆ ในระดับเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี่ ได้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมบอกว่าสิ่งนั้นมันทำให้ตนรู้สึกดีกว่าการได้รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า อีก

เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ ผู้รักษาประตู แอสตัน วิลล่า แสดงความเชื่อว่าตอนนี้ตนเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ในประเทศอาร์เจนตินาได้พอๆ กับ ลิโอเนล เมสซี่ แล้ว

ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 มาร์ตีเนซ โชว์ฟอร์มเซฟสวยๆ ในหลายชอตได้ จนถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ทำให้ อาร์เจนตินา ได้แชมป์ในรายการดังกล่าว ซึ่งผลงานในทัวร์นาเมนท์นั้นก็ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมจากงานของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) หรือ เดอะ เบสต์ รอบล่าสุด

นายด่านวัย 30 ปีเผยว่า "ถ้าเป็นตามที่คุณพ่อของผมพูดก็คือ ตอนนี้ผมแตะผืนฟ้าได้แล้ว ตอนนี้่เด็กครึ่งหนึ่งอยากเป็น เมสซี่ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งอยากเป็นผู้รักษาประตู แน่นอนว่านั่นถือเป็นช่วงเวลราที่น่าภาคภูมิใจในอาชีพการค้าแข้งของผม"

"ผมพูดอยู่เสมอว่าผมเกลียดรางวัลส่วนตัว ตอนนี้ต่อให้ผมจะได้รางวัลในงาน ฟีฟ่า เบสต์ มาแล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกพอใจหรอก สิ่งที่ทำให้ผมพอใจก็คือการที่ตอนนี้ผมได้เห็นเด็กๆ พยายามที่จะเป็นผู้รักษาประตูเพราะพวกเขาถูกใจสิ่งที่เห็นใน ฟุตบอลโลก คุณรู้ถึงเรื่องนั้นไหม ? ดังนั้นหลังจากนี้ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรในอาชีพการเล่นของผม ผมก็จะรู้สึกซาบซึ้งกับโอกาสที่ตัวเองได้รับใน ฟุตบอลโลก ไปตลอด"

ชูเอา เฟลิกซ์ แนวรุกชาวโปรตุกีส อาจต้องตัดสินใจย้ายทีมแบบถาวร เพราะดูเหมือนว่าการหวนกลับไปเล่น แอตเลติโก มาดริด หลังหมดสัญญายืมตัวกับ เชลซี หลังจบฤดูกาลนี้ แทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย

ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส ย้ายจากทัพ "ตราหมี" มาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แบบชั่วคราวเมื่อช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคม โดยนักเตะเริ่มทำผลงานได้น่าประทับใจอย่างต่อเนือง โดยเฉพาะในเกมที่ยิงประตูช่วย "สิงห์บลูส์" เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อเดือนที่ผ่านมา

เฟลิกซ์ ที่เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งจะยืนยันว่าต้องการอยู่กับ เชลซี ต่อไปหลังหมดสัญญายืมตัวเมื่อจบฤดูกาลนี้ และงานนี้ดูเหมือนมีความเป็นไปได้ที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" อาจจะคว้าตัวเขามาเล่นแบบถาวร เพราะมีการเปิดเผยว่าเพื่อนร่วมทีมที่แอต.มาดริด ไม่อยากให้เขากลับมาอีกต่อไป

มิเกล มาร์ติน ตาลาเบร่า นักข่าวชื่อดังชาวสแปนิช เปิดเผยกับ "อาส" ว่า แข้ง "ตราหมี" เบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของ เฟลิกซ์ มากๆ และไม่อยากให้เขากลับมาเล่นให้ทีมอีกแล้ว "สิ่งที่ชัดเจนก็คือ ชูเอา เฟลิกซ์ มีแค่ทางเลือกเดียว ส่วน แอตเลติโก มาดริด มีหลายทางเลือก"

"ตอนนี้ ชูเอา เฟลิกซ์ ยังคงติดต่อกับ 2 นักเตะที่แอตเลติโก มาดริด หลังจากอยู่กับทีมนาน 4 ปี คนแรกก็คือ เฮนิลโด (มันดาวา) ซึ่งย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อปีก่อน กับ เซร์คิโอ เรกีลอน ซึ่งสนิทกับเขาที่สุด ส่วนนักเตะที่เหลือไม่มีใครเป็นมิตรกับเขาเลย"

"เหตุผลที่เป็นแบบนี้ก็เพราะพวกเขาเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของเขา พวกเขาคิดว่าเขาสนใจแค่เรื่องของตัวเอง กับเป้าหมายของเขาเพียงอย่างเดียว" เหยี่ยวข่าวชื่อดัง ระบุ

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชี้ ฟิล โฟเด้น กลับมาท็อปฟอร์มแล้ว หลังทีมบุกสอย บริสตอล ซิตี้ 3-0 ผ่านเข้ารอบก่อนรองฯ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ แต่รับเกมนี้ไม่ง่ายสำหรับ "เรือใบสีฟ้า"

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื่อว่า ฟิล โฟเด้น กองกลางคนเก่ง กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง หลังจากที่ ดาวเตะจอมพลิ้ววัย 22 ปี ทำคนเดียวสองประตู ช่วยทัพ "เรือใบสีฟ้า" บุกพิชิต บริสตอล ซิตี้ สโมสรระดับ แชมเปี้ยนชิพ 3-0 ในศึก เอฟเอ คัพ รอบห้า เมื่อวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา 

โฟเด้น เป็นคนกระทุ้งประตู 1-0 (นาทีที่ 7) และ 2-0 (นาทีที่ 74) ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์ ยิงไกลสุดสวยเป็นประตูย้ำชัย 3-0 นาทีที่ 81 ซึ่งชัยชนะนัดนี้ทำให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ

"เกมนี้ ฟิล โฟเด้น เล่นได้คล่องแคล่วมากๆ ปกติแล้วนักฟุตบอลจะมีช่วงขาขึ้นและขาลง แต่เขามีแต่ขึ้นอย่างเดียวเลย เขาอาจจะฟอร์มหลุดไปบ้างหลังจากบอลโลก แต่ตอนนี้เขากลับมาแล้ว เมื่อคุณทุ่มเททำงานอย่างหนักแบบที่เขาทำ คุณจะได้สิ่งตอบแทนเสมอ" ยอดกุนซือชาวสแปนิชวัย 52 ปี เปิดใจหลังเกม

ถึงแม้ชนะด้วยสกอร์ 3-0 แต่ กวาร์ดิโอล่า ยอมรับว่า ไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย "มันเป็นเกมที่ยากมากๆ บริสตอล ได้แสดงให้เห็นแล้วว้า พวกเขาเจ๋งแค่ไหน และผมเองก็รู้สึกประทับใจผู้เล่นบางคนของพวกเขาด้วย ซึ่งผมก็ไม่รู้จักพวกเขาหรอก แฟนๆ ที่ บริสตอล ยอดเยี่ยมมาก เราเคยมาเยือนที่นี่เมื่อห้าปีก่อนในถ้วย คาราบาว คัพ และมันก็ยอดเยี่ยมมากๆ ผมยังจำวันนั้นได้เป็นอย่างดี"

เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าฟอร์มแรงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับชื่นชอบและประทับใจฟอร์มการเล่นของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ หัวหอกทีมชาติฝรั่งและและปารีส แซงต์-แชร์กแมง อย่างมาก

ตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โลกลูกหนังต้องทึ่งกับความยอดเยี่ยมของ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งทั้งสองคนได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในยุคของพวกเขา

สำหรับตอนนี้ทั้งสองคนเริ่มฝีเท้าโรยราไปตามวัย และมีนักเตะเก่งๆ ที่ขึ้นมาประดับวงการฟุตบอลมากมาย แต่ที่โดดเด่นและถูกยกให้เป็นคู่แข่งแย่งความยิ่งใหญ่นั่นก็คือ เอ็มบัปเป้ กับ ฮาลันด์

หัวหอกทีมชาตินอร์เวย์ อายุแค่ 22 ปี ขณะที่ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ วัยเพียง 24 ปีแต่พวกเขาสร้างผลงานตะบันตาข่ายคู่แข่งเป็นว่าเล่น และสามารถทำลายสถิติที่ไม่เคยมีกองหน้าคนไหนในอดีตทำได้

ฮาลันด์ ซัดไปแล้ว 33 ประตูจากการเล่น 33 แมตช์ให้ทัพ "เรือใบสีฟ้า" ขณะที่ เอ็มบัปเป้ จัดการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายจำนวน 29 ประตูจากการลงสนาม 29 แมตช์ให้ "เปแอสเช" ในซีซั่นนี้

อดีตสตาร์โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับ เอ็มบัปเป้ ว่า "ผู้คนชาวฝรั่งเศสโชคดีมากๆ ที่มีเขาเล่นให้กับ ฝรั่งเศส แน่นอนว่าผมอยากให้เขาเล่นให้ นอร์เวย์ ! เขาเป็นนักเตะที่น่าเหลือเชื่อ ทั้งเร็ว และยิงได้คม เขาทำแบบนี้ได้ในช่วงหลายๆ ปี"

"อะไรนะ เขาอายุมากกว่าผมแค่สองปีเหรอ ? มันบ้าไปแล้ว บางครั้งคุณต้องคิดว่าเขายังคงเหลือเวลาในการเล่นระดับสูงอีก 10 ปี เขาคือปรากฎการณ์อย่างแท้จริง" ฮาลันด์ กล่าวทิ้งท้าย

แกรม พ็อตเตอร์ กุนซือทีม เชลซี กระโดดเป็นตัวเต็งแบบไร้คู่แข่งต่อการเป็นนายใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก รายต่อไปที่จะตกเก้าอี้แล้วหลังจากพาทีม สิงห์บลูส์ ออกไปแพ้ สเปอร์ส 2-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ.

พ็อตเตอร์ อดีตกุนซือทีม ไบรท์ตัน ยังไม่เลิกสร้างผลงานที่แสนเลวร้ายให้กับทีมเงินถังแห่งลอนดอนเมื่อล่าสุดคุมทีมพ่ายต่อ ไก่เดือยทอง คู่ปรับร่วมเมือง 2-0 โดยมี ท็อดด์ โบลีห์ เจ้าของทีมชาวอเมริกันนั่งดูเกมอยู่บนอัฒจันทร์ด้วย

จากผลลัพธ์ดังกล่าว ทำให้ เชลซี ไม่ชนะหกนัดติดต่อกันแล้วในทุกรายการ และรั้งอันดับ 10 ของ พรีเมียร์ลีก โดยมีแต้มใกล้โซนตกชั้นมากกว่าอันดับท็อปโฟร์ไปแล้วเนื่องจาก สิงห์บลูส์ ตามหลัง สเปอร์ส ทีมอันดับสี่เพิ่มเป็น 14 แต้ม และมีแต้มมากกว่า เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 18 สิบแต้ม

ด้วยเหตุนี้ ล่าสุดหลังเกมที่ ท๊อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม สกาย เบต บริษัทรับพนันยักษ์ใหญ่ของ อังกฤษ จึงปรับลดราคาจ่าย พ็อตเตอร์ ต่อการโดนปลดลอย่างฮวบฮาบในฐานะเต็งหามหลังจากเขาได้รับการสนับสนุนให้เสริมทัพมากถึง 350 ล้านปอนด์ (ราว 14,777 ล้านบาท)  แต่พาทีมชนะแค่ 2 จาก 15 นัดหลังในทุกรายการ

แกรม พ็อตเตอร์ 1-4

เดวิด มอยส์ 6-1

สตีฟ คูเปอร์ 12-1

แกรี่ โอนีล 16-1

อันโตนิโอ คอนเต้ 25-1