ดไวท์ ยอร์ค ตำนานกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้มีแค่นักเตะคนเดียวในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดปัจจุบันที่มีดีพอจะเล่นให้กับทัพ "ปีศาจแดง" ชุดทริปเบิ้ลแชมป์ 1999

ทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังเดินหน้าไล่ล่าสร้างประวัติศาสตร์คว้า 3 แชมป์ในฤดูกาลนี้ โดยหากพวกเขาทำสำเร็จจะกลายเป็นสโมสรที่ 2 ในอังกฤษที่สามารถทำได้ ต่อจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ทำได้เมื่อฤดูกาล 1998/1999

สำหรับตอนนี้ทัพ "เรือใบสีฟ้า" เหลือเพียงแค่ก้าวเดียวที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว หลังพวกเขาเพิ่งเฉือนชนะคู่อริร่วมเมือง 2-1 ผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และตอนนี้ก็เตรียมดวล "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ในรอบชิงชนะเลิศ เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายนนี้

ยอร์ค ซึ่งยิงไป 29 ประตูให้กับ "เร้ด เดวิลส์" ในซีซั่นแห่งประวัติศาสตร์ ยืนยันว่าแม้ แมนฯ ซิตี้ จะเก่งฉกาจมากแค่ไหนก็ตามในยุคปัจจุบัน แต่มีแค่ เควิน เดอ บรอยน์ เท่านั้นที่พอจะมีโอกาสสอดแทรกเป็นตัวจริง แมนฯ ยูฯ ในชุดที่ยิ่งใหญ่เมื่อ 24 ปีก่อน

"มีนักเตะ แมนฯ ซิตี้ แค่คนเดียวเท่านั้นที่จะได้อยู่ในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด และเขาอาจจะไม่ได้อยู่ในทีมตัวจริง เขาอาจต้องนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง นั่นก็คือ เควิน เดอ บรอยน์" ตำนานทีมชาติตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ระบุ

เมื่อถามเกี่ยวกับเหตุผลที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิงฟอร์มระเบิดของ แมนฯ ซิตี้ ที่ตะบันไปถึง 52 ประตูในทุกรายการ ถึงไม่ติดทีม โดย ยอร์ค กล่าวว่า "ทำไมเราองเปลี่ยนกองหน้าของเราในเมืองเรายิงประตูได้ตลอดละ ? ผมชอบ ฮาลันด์ ผมคิดว่าเขาเก่งมากๆ ผมคิดว่าเขามีทุกสิ่งทุกอย่าง"

"ผมมักพูดเกี่ยวกับเขาเสมอ ผมเคยบอกกับทุกๆ คนว่า แม้กระทั่ง ยูไนเต็ด เมื่อ 2 หรือ 3 ปีก่อนก็ควรซื้อเด็กคนนี้ในราคา 150 ล้านปอนด์ (ราว 6,300 ล้านบาท) เขายังสามารถพัฒนาได้อีก"

"แน่นอนว่าเขาอาจะต้องนั่งสำรอง แต่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะเปลี่ยนตัวเอง และ (แอนดี้) โคล, โอเล่ (กุนนาร์ โซลชา) และ เท็ดดี้ (เชอริงแฮม) ในเมื่อเรามีสิ่งที่เราต้องการอยู่แล้ว มันไม่สมเหตุสมผลเลย" ยอร์ค ระบุ

เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ กองหลังทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สร้างความฮือฮาปรากฏตัวหน้าสนาม เวมบลีย์ ในเกม เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิ.ย. จนทำเอาแฟนบอลพากันทึกทักว่าเจ้าตัวจ่อย้ายมาค้าแข้งกับ ผีแดง ในซีซั่นหน้า

ทิมเบอร์ ดาวเตะวัย 21 ปีเคยร่วมงานกับ เอริค เทน ฮาก มาก่อน และตกเป็นข่าวลือกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามระเบียบโดยเชื่อกันว่าเขาพร้อมอำลาทีมในบ้านเกิดย้ายมาหากินใน พรีเมียร์ลีก ซัมเมอร์นี้

กระทั่งล่าสุด ทิมเบอร์ ซึ่งเล่นได้ทั้งตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และแบ็คขวาปรากฏตัวหน้าสนาม เวมบลีย์ ก่อนการฟาดแข้งจนทำให้แฟนบอลพากันคาดว่าเขาจะเข้าชมเกมก่อนย้ายมาค้าแข้งกับ ผีแดง

"เขาจะมาที่ ยูไนเต็ด"

"เขาต้องการดูทีมของเขาในอนาคต"

"เขาฝันที่จะสวมเสื้อสีแดงมาปีหนึ่งแล้ว"

"หวังว่าเขาจะได้คุยกับ เอริค"

แมนฯ ยูไนเต็ด และ แมนฯ ซิตี้ พร้อมแค่ไหนก่อนชิง เอฟเอ คัพ? เอริค เทน ฮาก อัพเดตอาการของ อันโตนี่ ไหวไหมที่จะได้ลงเล่น ขณะที่ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ยันแล้ว เอแดร์ซอน หรือ สเตฟาน ออร์เตก้า จะได้ลงเฝ้าเสา

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า มีโอกาสน้อยมากที่ อันโตนี่ ปีกชาวบราซิเลียน จะได้กลับมาลงดวล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมือง ในศึก เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ที่สนาม เวมบลีย์ คืนวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายนนี้ (21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)

อันโตนี่ บาดเจ็บที่ข้อเท้าขวาจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถล่ม เชลซี 4-1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยตอนแรกหวั่นว่าอาจต้องปิดเทอมก่อนเพื่อน แต่กุนซือชาวดัตช์ เผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเจ้าตัวยังมีโอกาสกลับมาได้ในเกมชิงดำบอลถ้วย

อย่างไรก็ตาม เทน ฮาก เผยในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 2 มิ.ย. หลังโดนนักข่าวถามเรื่อง อันโตนี่ จะฟิตทันหรือไม่ว่า "ไม่น่าจะเป็นไปได้ เขายังมีโอกาสอยู่ แต่ก็เป็นโอกาสที่น้อยมากจริงๆ เขาไม่มีพัฒนาการ ดังนั้นที่ผมพูดคือเขายังมีโอกาส แต่ก็เป็นไปได้ยากที่เขาจะพร้อมลงเล่น"

ด้าน เป็ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี้ กล่าวถึงความพร้อมของทีมว่า "นี่คือนัดชิง เอฟเอ คัพ และมันน่ายินดีที่ได้มาที่นี่ ทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ และ แจ็ค กรีลิช ลงซ้อมได้ดีในสองเซสชั่นหลังสุด"

พร้อมกันนี้ นายใหญ่ "เรือใบสีฟ้า" ยังยืนยัน สเตฟาน ออร์เตก้า ผู้รักษาประตูมือสองชาวเยอรมัน จะได้ลงเฝ้าเสาตัวจริงในเกมนี้ หลังในลีกให้ เอแดร์ซอน เป็นมือหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า "ใช่ เขาจะได้ลงเล่น มันเป็นแบบเดิมในฟุตบอลถ้วย"

ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวพร้อมเจรจาดึง มิคกี้ ฟาน เด เฟน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม โวล์ฟบวร์ก มาเสริมทัพ และจะเป็นนักเตะใหม่รายแรกของสโมสรที่ ยอร์ก ชมัดท์เค่อ ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่เดินเรื่องฉุดมาร่วมชายคา

ชมัดท์เค่อ ได้รับการแต่งตั้งให้รับบทผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และล่าสุดเมื่อ 1 มิ.ย.มีการรายงานว่าเขากำลังจะคว้านักเตะใหม่รายแรกในซัมเมอร์นี้มอบให้กับ หงส์แดง ซึ่งได้แก่คนใกล้ตัวอย่าง ฟาน เด เฟน ปราการหลังทีมชาติ ฮอลแลนด์ ชุดยู 21 ที่เขาคว้าตัวจาก โฟเลนดัม ให้ย้ายมาร่วมทีม โวล์ฟสบวร์ก ช่วงที่เขานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกันนี้ให้กับทีม หมาป่า ใน บุนเดสลีกา

ขณะเดียวกัน WAZ เสริมว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ หงส์แดง ชื่นชมดาวเตะวัย 22 ปีรายนี้มากเช่นกันเนื่องจากเขามีความสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว และเล่นได้ทั้งตำแหน่งแบ็คซ้าย และเซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้าย อีกทั้งมีความเร็ว และมีทักษะที่ดีโดยซีซั่นที่ผ่านมาซึ่ง โวล์ฟสบวร์ก คว้าอันดับแปดในลีกเมืองเบียร์ ดาวเตะดัตช์ได้ลงเล่นในทุกรายการ 36 นัด และคาดว่าน่าจะมีค่าตัว 34 ล้านปอนด์ (ราว 1,482 ล้านบาท)  เป็นอย่างต่ำ

ต่อกรณีของ ฟาน เด เฟน มีการตั้งข้อสังเกตว่า ลิเวอร์พูล จะวางระบบใหม่ในซีซั่นหน้าภายใต้แผนแบ็คทรีโดยจะขยับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ให้ขึ้นไปทำเกมรุกมากขึ้นอย่างเต็มตัว ขณะที่ปราการหลังร่างโย่งจะย้ายมาสวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้าย

สำหรับแผนแบ็คทรี โวล์ฟสบวร์ก เคยใช้ระบบนี้เช่นกันในหกนัดสุดท้ายของซีซั่นโดย ฟาน เด เฟน ได้เล่นเป็นตัวจริงห้านัด แต่สวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้ายสามนัดโดยห้านัดที่สตาร์ชาวเมืองกังหันลมได้ลงบู๊ ทีม หมาป่า เสียประตูมากถึง 15 ลูก แต่น่าจะเป็นเพราะสโมสรต้องการทดลองระบบเป็นสำคัญ

บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพลย์เมกเกอร์ชาวโปรตุกีสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อ กอนซาโล่ รามอส กองหน้าเพื่อนร่วมชาติมีคุณสมบัติทุกอย่างที่จะประสบความสำเร็จในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเฉพาะกับการเล่นให้ทัพ "ปีศาจแดง"

หัวหอกวัย 21 ปี เป็นหนึ่งในหัวหอกดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดในวงการลูกหนังยุโรป โดยเขามีฤดูกาลที่สุดยอดด้วยการตะบันไป 27 ประตูกับ 12 แอสซิสต์กับการเล่นให้ เบนฟิก้า 47 แมตช์เท่านั้น พร้อมนำทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดประเทศโปรตุเกส

แฟร์นันด์ส เผยว่า รามอส เป็นนักเตะที่มีศักยภาพสูงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น, วิ่งไล่กดดันได้ดี และยังแข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศ พร้อมเชื่อ ดาวเตะเพื่อนร่วมชาติ สามารถพัฒนาศักยภาพจนก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลกได้

"สิ่งที่ดีที่สุดย่อมมีประโยชน์เสมอทั้งกับ กอนซาโล่ หรือนักเตะคนอื่นๆ ผมคิดว่าเขามีคุณสมบัติทุกอย่างที่สามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ และเมื่อผมพูดถึงพรีเมียร์ลีก ผมหมายถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"

"ผมคิดว่าเขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดนักเตะได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ทุกอย่างไม่ได้อยู่ในมือผมมันเป็นเรื่องของผู้อำนวยการกีฬา กอนซาโล่ มีเงื่อนไขทุกอย่างที่จะเล่นในพรีเมียร์ลีก"

"เขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น, วิ่งเพรสซิ่งได้ดีเยี่ยม และยืนตำแหน่งในพื้นที่สุดท้ายได้ดีมากๆ เขาทำให้ผมประหลาดใจในทีมชาติ ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นแต่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ด้วย เขามีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง เขายังหนุ่ม และกำลังทำผลงานได้ดีเยี่ยม"

"ถ้าเขายังคงทำงานหนักแบบนี้ต่อไปเหมือนที่เขาทำมาตลอด ผมคิดว่าเขาจะพัฒนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก แต่เขาต้องไปเล่นในลีกที่มีการแข่งขันสูงเพื่อพิสูจน์สิ่งนี้" จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส ระบุ

สื่อเมืองแมนเชสเตอร์ ระบุ ฟูแล่ม แสดงความสนใจคว้า เฟร็ด มิดฟิลด์ทีมชาติ บราซิล ไปเสริมทัพ ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมปล่อยตัวดาวเตะแซมบ้าออกจาก โรงละครแห่งความฝัน เช่นกัน

แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ รายงานเมื่อ 29 พ.ค.ว่า มาร์โก ซิลวา นายใหญ่ทีม เจ้าสัวน้อย น่าจะมีแผนทาบซื้อ เฟร็ด จาก ผีแดง เนื่องจากหลังจบเกม พรีเมียร์ลีก นัดปิดซีซั่นที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กุนซือ โปรตุกีส ถูกพบเห็นว่าคุยกับสตาร์ชาวเมืองกาแฟซึ่งโชว์ฟอร์มได้ดีพาทีมเจ้าบ้านพิชิตผู้มาเยือนจากลอนดอนได้ด้วยสกอร์ 2-1 ที่หน้าสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนที่เขาและทีมจะเดินทางกลับ

ขณะเดียวกัน เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่านับตั้งแต่ ฟูแล่ม เลื่อนขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จเมื่อปีก่อน พวกเขาเน้นเซ็นสัญญากับพ่อค้าแข้งที่พูดภาษาโปรตุกีสเป็นจำนวนมากรวมถึง อันเดรียส เปเรยร่า อดีตขุนพลทีม เร้ด เดวิลส์ ด้วย

นอกจาก กองกลางละตินวัย 30 ปีแล้ว สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มิดฟิลด์อีกรายของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจาก นิวคาสเซิ่ล เช่นกัน แต่คาดว่า เอริค เทน ฮาก อาจเลือกปล่อย เฟร็ด ออกไปมากกว่าเพื่อนำเงินไปคว้ามิดฟิลด์พลังหนุ่มมาเสริมแทน และเก็บกองกลางสัญชาติวิสกี้เอาไว้

เท่าที่ผ่านมา แม้ เฟร็ด จะได้เล่นเป็นตัวจริงในเกมเฝ้าบ้านชนะ แมนฯ ซิตี้ และ บาร์เซโลน่า รวมถึงนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ที่สยบ สาลิกาดง ได้ แต่ในเกม พรีเมียร์ลีก เขาได้ลงบู๊เป็นตัวจริงแค่สองเกมนับตั้งแต่ได้ออกสตาร์ตนัดบุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 7-0 เมื่อวันที่ 5 มี.ค.

รวมแล้วในซีซั่นนี้ เฟร็ด ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แค่ 22 นัดเท่านั้นซึ่งน้อยที่สุดนับตั้งแต่เขาย้ายมาค้าเกือกกับ ผีแดง ในซีซั่น 2018/19

ไม่เพียงแค่ เฟร็ด เท่านั้น แต่เชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีแผนโละนักเตะออกไปหลายรายในซัมเมอร์นี้ทั้ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ , อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล , เอริค ไบยี่ , อเล็กซ์ เตลเลส และ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์

ดีน สมิธ กุนซือ เลสเตอร์ ซิตี้ เผยว่าเหล่าผู้เล่น "เดอะ ฟ็อกซ์" ต้องการได้กำลังใจจากแฟนบอลเพื่อปลุกเร้าพาทีมรอดพ้นจากการตกชั้น

เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมต่อการตกไปเล่น แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้า โดยตอนนี้รั้งอยู่อันดับ 18 ของตาราง มีคะแนนตามหลัง เอฟเวอร์ตัน โซนปลอดภัย 2 แต้ม

ซึ่งเงื่อนไขของ "เดอะ ฟ็อกซ์" ที่จะรอดปลอดภัยนั้น อันดับแรกคือต้องเก็บชัยชนะเหนือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ให้ได้ก่อน แล้วไปลุ้นผลการแข่งขันของ เอฟเวอร์ตัน ให้ไม่สามารถเอาชนะ บอร์นมัธ ได้

ทาง ดีน สมิธ กุนซือ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ได้ส่งสารถึงแฟนบอลก่อนหน้าจะพาลูกทีมลงเตะเกมนัดสุดท้าย ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าต้องการเสียงเชียร์จากแฟนบอลเพื่อหนุนหลัง

"เราต้องการพวกเขาอย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อหนุนหลังเหล่าผู้เล่น หนุนหลังเหล่าสตาฟฟ์ หนุนหลังสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ เราทั้งหมดต่างอยู่ในสถานการณ์ปัญหาเหมือนกัน เราต้องการได้ผลการแข่งขันเพื่อความอยู่รอดบนเวที พรีเมียร์ลีก และทางเดียวที่เราจะทำแบบนั้นได้คือต้องรวมเป็นปึกแผ่น และผมไม่สงสัยเลยว่าเราจะทำได้"

เอริค เทน ฮาก กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โว "ปีศาจแดง" คู่ควรกับการได้เล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังการันตีท็อปโฟร์สำเร็จ ด้วยการเปิดบ้านยำ เชลซี 4-1 พร้อมพูดถึงอาการบาดเจ็บของ อันโตนี่ และ ลุค ชอว์

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า ทีมตนได้กลับไปอยู่ในจุดที่คู่ควรอีกครั้ง หลังจากที่ "ปีศาจแดง" การันตีติดท็อปโฟร์ในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้เรียบร้อย พร้อมคว้าสิทธิ์กลับไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ด้วยการเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถล่ม เชลซี 4-1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

กาเซมีโร่ โขกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 6 ก่อนหนีเป็น 2-0 จาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก จากนั้นในช่วงครึ่งหลัง "ปีศาจแดง" มาได้ประตู 3-0 และ 4-0 แบบติดๆ จาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส (จุดโทษ) นาทีที่ 73 และ มาร์คัส แรชฟอร์ด นาทีที่ 78 ก่อนที่ เชลซี มาได้ประตูปลอบใจจาก ชูเอา เฟลิกซ์ นาทีที่ 89

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แซง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ขึ้นมารั้งอันดับสาม พร้อมการันตีติดท็อปโฟร์ ถึงแม้เหลือโปรแกรมลงแข่งอีกหนึ่งเกม โดยมี 72 แต้ม จากการลงแข่ง 37 นัด ทิ้ง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับห้า ห่างเป็น 6 แต้ม

"มันสำคัญมากๆ สโมสรแห่งนี้คู่ควรกับการได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก" กุนซือชาวดัตช์วัย 53 ปี เปิดใจหลังเกม "มีหลายสโมสรที่แข่งขันแย่งชิงตำแหน่งนี้ ดังนั้นเราจำเป็นต้องเค้นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมมากๆ เพื่อทำให้สำเร็จ และเกมนี้เราได้แสดงให้เห็นถึงความกระหายในชัยชนะ เราเล่นจังหวะสวนกลับได้ดีมากๆ"

นอกจากนี้ เทน ฮาก ยังได้พูดถึงอาการบาดเจ็บของ อันโตนี่ และ ลุค ชอว์ โดยรายแรกเจ็บข้อเท้าขวา จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ช่วงกลางครึ่งแรก ส่วนรายหลังโดนเปลี่ยนออกก่อนเริ่มครึ่งหลัง

"ตอนนี้ยังพูดยาก เราจำเป็นต้องรออีก 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นเราก็จะได้รู้" นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุ

โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ บอกเอง ยังไม่วาดฝันถึงการที่จะเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ โดยบอกว่าจะค่อยคิดถึงเรื่องนั้นก็ต่อเมื่อได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ก่อน

โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตนยังไม่คิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ในซีซั่นนี้แต่อย่างใด

ฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้ เล่นได้ยอดเยี่ยมจนซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครองแล้ว และยังมีลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพิ่มอีก ซึ่งถ้าได้แชมป์ใน 2 รายการที่ว่ามันก็จะทำให้พวกเขาเป็นทีมที่ 2 จากเกาะอังกฤษที่ได้ทริปเปิ้ลแชมป์แบบที่ประกอบไปด้วย พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยทีมแรกที่ทำอย่างนั้นได้คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดซีซั่น 1998-99

กวาร์ดิโอล่า เผยว่า "ผมจะเริ่มคิดเกี่ยวกับการได้ทริปเปิ้ลแชมป์ก็ต่อเมื่อเราไปยังนครอิสตันบูลโดยที่ได้แชมป์แล้ว 2 รายการเท่านั้น หลังจากนั้นผมถึงจะค่อยยอมรับว่า -โอเค เราได้มาเพิ่มแล้ว 1 แชมป์ เรามีโอกาสที่จะทำมันได้-"

"ในสหราชอาณาจักรมันเคยมีทีมที่ทำอย่างนั้นได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น มีเพียงทีมเดียวที่เคยทำอย่างนั้นได้ นั่นคือ ยูไนเต็ด พวกเขาเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ที่ คัมป์ นู ด้วยแนวทางที่น่าทึ่ง ตอนนั้นผมก็อยู่ที่นั่นในฐานะเด็กน้อยคนหนึ่ง"

ดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกสายสปีด ส่อแววได้ช่วย ลิเวอร์พูล ในเกมปิดซีซั่นช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพราะล่าสุดกลับมาซ้อมได้แล้ว หลังจากที่พลาดสองเกมติด

ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าความเร็วสูงชาวอุรุกวัยของ ลิเวอร์พูล มีแนวโน้มที่จะได้กลับมาช่วยทีมในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2022-23 ที่ "หงส์แดง" บุกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ หลังลงซ้อมที่ แอ็กซ่า เทรนนิ่ง เซนเตอร์ เมื่อวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

นูนเญซ พลาดเกมลีกสองนัดล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล บุกถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 เมื่อวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม และเปิดบ้านเสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บที่นิ้วเท้าเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ดาวยิงหน้าหล่อวัย 23 ปี ได้กลับมาซ้อมที่ แอ็กซ่า เทรนนิ่ง เซนเตอร์ เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ผ่านมา โดยเป็นการซ้อมส่วนตัว ซึ่งเน้นเรื่องความฟิต และการซ้อมกับลูกบอล

ตอนนี้ก็หวังว่า นูนเญซ จะสามารถลงซ้อมเต็มรูปแบบกับทีมได้ ก่อนฟาดแข้งเกมลีกนัดสุดท้ายกับ "นักบุญ" ซึ่งตกชั้นเรียบร้อย โดยปัจจุบัน ลิเวอร์พูล รั้งอันดับห้า ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ซึ่งพวกเขาจะยังมีลุ้นติดท็อปโฟร์ (ลุ้นจบที่อันดับสี่) ถ้าหาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับสี่ แพ้ในเกมเปิดบ้านดวล เชลซี วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคมนี้